ทำไมสินค้าแฟชั่นมือสอง หรือเทรนด์ของมือสองถึงมาแรงและน่าจับตามอง จากการรายงานของเว็บไซต์ที่ชื่อว่า ThredUP ที่เป็นเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าแฟชั่นสากลระดับสูง ได้มีการคาดการณ์จากการเติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าแฟชั่นมือสอง (Second hand) ในตลาด E-Commerce ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 350 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 นี้
นั่นหมายความว่า แนวโน้มในเรื่องของความนิยมในการซื้อสินค้ามือสองของคนทั่วโลกนั้นเพิ่มมากขึ้น อาจจะมาจากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม ความใส่ใจของผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน ก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจสินค้ามือสองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่า ถ้าให้พูดถึงเรื่องของการลงทุนคนส่วนใหญ่จะนึกไปถึงหุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ แต่มันยังไม่หมดเพียงแค่นี้ หลาย ๆ คนเริ่มหันมาจับสินค้ามือสอง เช่น นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม รุ่นลิมิเต็ดที่หาซื้อยาก ๆ นักลงทุนเหล่านี้ เล็งเห็นถึงผลกำไรที่น่าจะได้เป็นกอบเป็นกำในอนาคต หลายคนจึงหันมาสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมทั้งมือหนึ่งและมือสอง ธุรกิจที่ตามมาก็คือ ธุรกิจร้าน รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ว่าทำไมถึงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง และทำไมนักสะสมถึงคิดว่ากระเป๋าแบรนด์เนมนั้นน่าลงทุน แต่ก่อนอื่น เราไปสำรวจก่อนว่าของสะสมอะไรบ้างที่มีมูลค่าและน่าที่จะซื้อมาทำกำไรให้กับคุณได้
ของสะสมที่ควรค่าแก่การลงทุน
ของสะสมมักจะเริ่มมาจากความชอบและรสนิยมส่วนตัวของนักสะสม แน่นอนว่าพอเป็นของสะสมแล้ว คนมักจะคิดว่ามันเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ทราบหรือไม่ว่า ของสะสมเหล่านี้อาจทำกำไรให้คุณได้ หรืออาจสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับคุณได้ มาดูกันว่าของสะสมอะไรบ้างที่นักสะสมมักจะซื้อไปเก็บเพื่อเก็งกำไร
- นาฬิกา
นาฬิกานอกจากจะบ่งบอกถึงรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่แล้ว นาฬิกายี่ห้อหรู ๆ ทั้งมือหนึ่งและมือสองยังเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมอีกด้วย เพราะด้วยราคารีเซลที่สูงมากทำให้นาฬิกาหรูเป็นตัวเลือกที่ดีที่น่าลงทุน อีกทั้ง มันยังสามารถนำมาใส่เพื่อเสริมบารมีและยังแสดงถึงฐานะได้ดีอีกด้วย และจากผลสำรวจของเว็บไซต์ด้านการลงทุนอย่าง Knight Frank พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นาฬิกาหรูมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 173% นาฬิกาที่น่าลงทุนนำมาเก็งกำไร ยกตัวอย่างเช่น Rolex Daytona, Patek Phillippe Aquanaut, Cartier Tank Louis Cartier, Omega Speedmaster Moonwatch และ Audemars Piguet Royal Oak Selfwinding - รถคลาสสิก
รถคลาสสิก เป็นของสะสมที่มีค่า มีราคา และมีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งรถปีลึก ๆ อายุมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีราคาสูงมากขึ้นเท่านั้น จากการรายงานของ The Wealth Report 2024 เล่มล่าสุด รายงานเอาไว้ว่า สินทรัพย์ที่มีราคาสูงติดอันดับที่ 2 ก็คือ รถยนต์คลาสสิกอยู่ที่ 25% ซึ่งจัดว่าสูงสุดในรอบ 9 ปี ในช่วง 2022 ที่ผ่านมา และหากว่ามีการถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปี จะสามารถทำมูลค่าได้สูงถึง 193% เลยทีเดียว เช่น Jaguar E-Type 1965, Maserati Ghibi 4.7 1966 หรือ Aston Martin DB5 1963 - เพชร
จากผลสำรวจของเว็บไซต์ด้านการลงทุนอย่าง Knight Frank พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพชรสีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 102% ในปัจจุบัน เพชรสีถูกนำมาใช้ในการสื่อความหมาย รวมถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ตัวแทนความรัก ตัวแทนเรื่องโชคลาภ และเพชรสียังหาได้ยากกว่าเพชรที่ไม่มีสี โดยอัตราการค้นพบจะอยู่ที่ 1 ใน 10,000 จึงเหมาะที่จะเป็นของสะสมเพื่อเก็งกำไร - กระเป๋าแบรนด์เนม
จากความชอบและความสุขที่ได้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ความชอบนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นผลกำไรงาม ๆ ให้เจ้าของได้อีกด้วย กระเป๋าแบรนด์เนมจึงเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนเป็นอย่างมาก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ราคากระเป๋าแบรนด์เนมมีมูลค่าแข็งขึ้นถึง 8% และจากผลสำรวจของเว็บไซต์ด้านการลงทุนอย่าง Knight Frank พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าของกระเป๋าแบรนด์เนมมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 108% ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการผลิต รุ่นผลิตที่เป็นลิมิเต็ด แบรนด์ที่กำลังอยู่ในกระแส และเป็นที่ต้องการในตลาด จึงทำให้ราคากระเป๋าเพิ่มขึ้นทุกปี
กระเป๋าแบรนด์เนมที่เป็นการการันตีมูลค่ากระเป๋า และยังเป็นกระเป๋าที่หายากที่สุดในโลก นั่นก็คือ Hermes Himalaya Niloticus Crocodile Diamond Retourme Kelly 28 ที่มีมูลค่าสูงถึง 12 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่น่าลงทุนอีกเช่น - CHANEL CLASSIC FLAP
เป็นกระเป๋าที่สามารถสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ และที่สำคัญราคาขึ้นทุกปี เพราะเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม - HERMES BIRKIN
สำหรับ Hermes Birkin เป็นรุ่นฮิตตลอดกาล ราคาไม่ตกเพราะได้รับความนิยมสูง ราคาแต่ละใบจะขึ้นอยู่กับสไตล์และชนิดของหนัง - LADY DIOR BAG
เป็นอีกแบรนด์ที่สามารถทำกำไรและขายต่อได้ในราคาสูง ด้วยวัสดุที่ทนทานและดีไซน์ที่เหมาะกับผู้หญิง จึงเป็นที่นิยมซื้อเพื่อเก็งกำไร
LOUIS VUITTON NEVERFULL
เป็นรุ่นที่ซื้อง่าย และสามารถทำกำไรได้ด้วย เพราะมีความแข็งแรง ราคาสามารถจับต้องได้มากกว่ารุ่นอื่น ๆ
ลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่า
สำหรับนักสะสมที่อยากหากำไรจากกระเป๋าแบรนด์เนม เสียงส่วนใหญ่มักจะถกเถียงกันว่า ควรเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่ง หรือควรซื้อมือสองจากร้าน รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ดีกว่ากัน
- เลือกลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่ง
หากคุณเลือกที่จะลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่งมาเก็งกำไรในอนาคต สิ่งที่คุณต้องศึกษาให้ดีคือ ต้องศึกษาชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ เช่น หนังสัตว์ จากธรรมชาติ ซึ่งสีและลวดลายจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังรวมไปถึงรุ่นและแบบของกระเป๋าแบรนด์เนมนั้น ๆ ที่คุณต้องมีความรู้ในระดับหนึ่ง
ข้อดี - ได้ของใหม่ อุปกรณ์ครบ ใบเสร็จ ถุง ถุงผ้า การ์ดต่าง ๆ
ข้อเสีย - ราคาสูง - เลือกลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง
หากเป็นการเลือกลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง อันดับแรกที่ต้องคำนึงเลยก็คือ ร้าน รับซื้อกระเป๋าเบรนด์เนมมือสอง นั้นต้องมีความน่าเชื่อถือ เมื่อคุณซื้อไปแล้วมั่นใจว่า เป็นของแท้จริง ๆ พร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ถุง ใบเสร็จ ป้ายแท็กต่าง ๆ ควรมีครบ และควรเลือกกระเป๋าที่ยังคงสภาพดี ราคาเหมาะสม ที่สำคัญเลือกรุ่นของกระเป๋าให้ดี เพราะมันจะส่งผลถึงการขายในอนาคต หากเลือกรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยม ก็อาจจะขายไม่ได้ราคา
ข้อดี - ราคาจับต้องได้ และสามารถซื้อเพื่อเก็บเก็งกำไรได้
ข้อเสีย - เสี่ยงเจอของปลอม ต้องซื้อจากร้าน รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ทำไมถึงควรลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง
- ช่วยลดโลกร้อน
ทราบหรือไม่ว่า อุตสาหกรรมการผลิตกระเป๋านั้น ผลิตกันปีละหลายล้านใบและยังมีกรรมวิธีอีกมากมายในการผลิตที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม ทั้งการใช้ทรัพยากรและพลังงานไปอย่างมากมายนับไม่ถ้วน การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากร้าน รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง เป็นอีกหนึ่งทางที่สามารถช่วยลดโลกร้อนได้ - ช่วยเสริมสร้างความสุข
นอกจากกระเป๋าแบรนด์เนมจะมีมูลค่าสามารถสร้างผลกำไรทางการเงินให้กับเจ้าของได้แล้ว มันยังสามารถสร้างความสุขทางกายให้กับเจ้าของกระเป๋าได้อีกด้วย - ช่วยทำกำไร
กระเป๋าแบรนด์เนมมือสองบางรุ่นที่หายาก ๆ ทั้งจากเลิกผลิต วัสดุชนิดพิเศษ รุ่นที่ผลิตแบบลิมิเต็ด หรืออาจจะเพราะเซเลบริตี้ใช้ เหตุผลเหล่านี้ ทำให้ราคากระเป๋าพุ่งสูงขึ้นจากราคาเปิดตัวถึง 10 เท่า - ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ
กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงฐานะและภาพลักษณ์ที่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเหล่าผู้บริหาร หรือคนที่มีชื่อเสียงจึงนิยมใช้สินค้าแบรนด์เนม เพราะสินค้าเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ เสริมความสง่างาม และเสริมบุคลิกภาพ ให้กับผู้สวมใส่ได้ - ช่วยทำให้ไม่ตกเทรนด์
ด้วยความที่กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง มีราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายกว่าการซื้อมือหนึ่ง มันจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ไม่ต้องการตกเทรนด์ รุ่นใหม่มาก็สามารถหาซื้อมือสองมาใช้ได้ เมื่อเบื่อใบเก่าแล้ว ก็สามารถขายและทำกำไรให้ได้อีกด้วย
Tips ในการเลือกที่จะลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ต้องเลือกจากแบรนด์กระเป๋าที่ไม่เคยจัดโปรโมชั่นลดราคา เช่น Louis Vuitton, Hermes, Christian Louboutin และ Chanel เพราะการไม่ลดราคาของแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นเหมือนการคงคุณค่าของกระเป๋าไปในตัว และปกติแล้ว นโยบายของแบรนด์เหล่านี้ นอกจาก จะไม่มีการลดราคาแล้ว ยังจะมีการเพิ่มราคาของสินค้าตัวใหม่อีกด้วย ซึ่งมีผลทำให้กระเป๋าที่ซื้อมาสามารถขายทำกำไรได้ในราคาสูง จึงเหมาะแก่การลงทุน
และเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ธุรกิจร้าน รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หากคุณผู้อ่านกำลังสนใจที่จะลงทุนเก็งกำไรกับกระเป๋าแบรนด์เนม มาปรึกษาที่เรา Didini เรายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ซื้อง่าย ขายไว รับจำนำกระเป๋าแบรนด์เนม
เหตุผลที่ควรลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ Didini
- ให้ราคาสูง
- สามารถต่อรองราคาได้จนกว่าลูกค้าจะพอใจ
- ประเมินราคาตามสภาพอย่างยุติธรรม
- กรณี จำนำกระเป๋าแบรนด์เนม ทาง Didini จะดูแลกระเป๋าให้เป็นอย่างดี
- เก็บความลับลูกค้า ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหล
นอกจากกระเป๋าแบรนด์เนมที่ Didini รับซื้อและขายแล้ว เรายังมีสินค้ามือสองอื่น ๆ อีก เช่น โทรศัพท์มือสอง โน้ตบุ๊กมือสอง กล้องถ่ายรูปมือสอง
สนใจฝากขายและจำนำกระเป๋าแบรนด์เนม
โทร : 081-507-1507 , 081-621-7581
Line : @didini
Facebook : didini
E-mail : amydidini@gmail.com
เวลาทำการ
วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-18.30 น.
(วันเสาร์และอาทิตโทรนัดได้)
